🚀 Remeda - A Modern TypeScript-First Utility Library

🔥 สวัสดีครับ! วันนี้ผมมี library สุดเจ๋งมาแนะนำ นั่นก็คือ Remeda ที่มาพร้อมกับ utility functions มากมายเหมือน lodash ไม่ว่าจะเป็น chunk, filter, find และอีกเพียบ!

Table of contents

Intro

❓ แล้วทำไมต้อง Remeda?

Lodash และ Ramda นั้นถูกเขียนด้วย JavaScript แล้วค่อยเพิ่ม type ภายหลังผ่าน module augment ทำให้อาจมีข้อจำกัดบางอย่างในเรื่องของ type safety

Pros

• สร้างมาด้วย TypeScript ตั้งแต่แรก
• มี type definitions ที่แม่นยำ
• IDE support ที่ดีกว่า
• ตรวจจับ error ได้ตั้งแต่ compile-time

Cons

• มี Community ที่เล็กกว่า Lodash
• ต้องมีการเรียนรู้เพิ่มเติมจากปกติ เช่นใช้ Lodash ก็จะมี funtion ที่คุ้นเคยแต่ใน Remeda อาจจะไม่มีทำให้ต้องหาว่าใช้ funtion ไหนแทน
• ในกรณีที่เขียนแค่ Javascript ถ้าใช้ Remeda ก็ถือว่าใช้เกินตัวงานไปทำให้ไม่ได้รับผลดีจาก Typescript เลย

Fully Typed

const DATA = [1, 2, 3] as const;

const builtin = DATA.map((x) => x.toString());
//    ^? string[] ตัวอย่างกรณีนี้เราควรรู้ว่ามันคือ Array<string> หรือ [string, string, string] (Fix length string) ซึ่งมีผลต่อ type

const withRemeda = R.map(DATA, (x) => x.toString());
//    ^? [string, string, string] กรณีนี้คือให้กลับมาเป็น Array Fix length + Type

Data First or Data Last

Remeda support ทั้ง data-first และ data-last สำหรับ data-first ยังคงเป็นธรรมชาติและเป็นมิตรกับโปรแกรมเมอร์

// Lodash
_.pick(object, ["firstName", "lastName"]);
// Ramda
R.pick(object, ["firstName", "lastName"]); // data-first เป็นการส่ง param ไปก่อนแล้วตามด้วย fn
R.pick(["firstName", "lastName"])(object); // data-last เป็นการส่ง fn ไปก่อนแล้วรอรับ param

Pipe

Pipe เป็นหลักการของ functional programming ที่เป็นการทำ function จาก ซ้ายไปขวา ถ้าอิงตามคณิศาสตร์จะเป็นตามข้างล่าง

// f(g(x)) -> pipe(x, g, f)
// example f(x) = x + 2, g(x) = x * 2
const ops1 = (x: number) => x * 2;
const ops2 = (x: number) => x + 2;
const result = pipe([1, 2, 3, 4], map(ops1), map(ops2));

Guard

นอกจากนี้ตัว guard ก็ยังมี helper function ให้ใช้อีกมากมาย เช่น isArray, isEmpty, isNullish, isFunction อีกด้วย สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

Conclusion from writer

จากที่ผู้เขียนได้ใช้มา ส่วนใหญ่จะนำมาใช้กรณีที่ทำ helper function แล้วนำไปใช้ซ้ำภายในโปรเจคอีกที โดยมีการใช้ pipe และ guard เป็นส่วนใหญ่ซึ่งข้อดีจริงๆคือเรื่อง type ที่ค่อนข้างชัดเจนมาก และถ้าใครทำ functional programming แบบเต็มตัวคิดว่า Remeda น่าจะตอบโจทย์ได้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว